ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา
ร้อง ตร.เอาผิดครู รร.ดังประจวบฯ ลงโทษ นร.รุนแรงเกินเหตุ (เว็บไซต์สำนักข่าวไทย 24 พ.ย. 56 (06:45 น.))
เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนชื่อดังเมืองประจวบฯ นำลูกชาย
ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1
เข้าแจ้งความกับตำรวจ อ้างถูกครูลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ด้วยการใช้ไม้เรียวฟาดก้นจนเป็นรอยฟกช้ำทั้งสองข้าง
ผู้ปกครองของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ)
อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ พา ด.ช.เอ ลูกชาย
เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ว่า
ลูกชายถูกครูสอนวิชาสังคมตีด้วยไม้เรียวที่ก้นทั้งสองข้างจนเป็นรอยฟกช้ำเมื่อวันที่
21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลงโทษนักเรียนที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งตัว ด.ช.เอ
ไปตรวจร่างกายกับแพทย์ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนในการดำเนินคดี
ก่อนจะเชิญครูคนดังกล่าวสอบมาปากคำต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ปกครองของ ด.ช.เอ
ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ลูกชายเล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่ถูกครูลงโทษ
เนื่องจากสอบตกวิชาสังคม และอยู่ระหว่างการสอบซ่อม
โดยครูผู้สอนมอบหมายให้ทำรายงานส่ง แต่ ด.ช.เอ ทำรายงานไม่เสร็จ
จึงถูกครูใช้ไม้เรียวตีที่ก้น จำนวน 9 ครั้ง
ที่หน้าชั้นเรียนพร้อมเพื่อนอีก 5 คนที่สอบตกในวิชาเดียวกัน
วันต่อมา ด.ช.เอ มีอาการไข้ขึ้นสูง
ต้องนำถุงน้ำร้อนมาประคบรอยฟกช้ำที่ก้นทั้งสองข้างเพื่อบรรเทาความเจ็บ
ทำให้ไม่สามารถไปเรียนหนังสือตามปกติได้
จึงอยากให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูคนดังกล่าวแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ซึ่งถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุและละเมิดสิทธิเด็ก
เพราะการเฆี่ยนตีถือว่าเป็นการลงโทษที่ผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการอย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย
สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ : การทำร้ายร่างกายของเด็ก
แม้จะเป็นการตี แต่ตอนนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายแล้ว เพราทางกระทรวงศึกษาธิการ
ได้สั่งยกเลิกการ ลงโทษเด็กนักเรียนด้วยการเฆี่ยนตีมาถึง 10 ปี แล้ว
ด้วยการออกระเบียบของกระทรวง ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.2548 กำหนดให้การลงโทษเด็กทำได้แค่ 4 สถาน เท่านั้น คือ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ
4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และภายหลังมีการเพิ่มมาตรการลงโทษเด็กที่ไม่สามารถปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมได้
โดยให้พักการเรียนกับเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และรุนแรง
หากตัวเราได้เป็นครู
เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร : หากนักเรียนสอบตก
เมื่อสั่งงานให้ไปทำ แต่เด็กไม่ได้ทำ เราก็ควรหาทางแก้อย่างอื่น เช่น
ให้บำเพ็ญประโยชน์แก่โรงเรียน เก็บขยะ กวาด เช็ด ถู ห้องเรียน
หรือไม่ก็ให้ทำความสะอาดห้องน้ำ และดิฉันจะปฏิบัติคำสอนหรือหลักธรรมในพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับความเป็นครูคือการการทำตัวเป็นที่รักต่อศิษย์และบุคคลทั่วไป
การที่ครูจะเป็นที่รักแก่ศิษย์ได้ ก็ควรตั้งตนอยู่ในพรหมวิหาร 4 คือ มีเมตตา
ปรารถนาดีต่อศิษย์
หาทางให้ศิษย์เป็นสุขและเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านวิชาการและการดำเนินชีวิต
คอยระวังมิให้ศิษย์ตกอยู่ในความประมาท มีกรุณา สงสาร เอ็นดูศิษย์
อยากช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ ความไม่รู้ มีมุทิตา คือ
ชื่นชมยินดีเมื่อศิษย์ได้ดี
และยกย่องเชิดชูให้ปรากฏเป็นการให้กำลังใจและช่วยให้เกิดความภูมิใจในตนเอง และมีอุเบกขา
คือ วางตัวเป็นกลาง จิตใจที่ตั้งอยู่ในความยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ ด้วยเพียงเท่านี้ก็จะไม่เกิดปัญหาทั้งครูและนักเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น