วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 3

ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา


ร้อง ตร.เอาผิดครู รร.ดังประจวบฯ ลงโทษ นร.รุนแรงเกินเหตุ (เว็บไซต์สำนักข่าวไทย 24 พ.ย. 56 (06:45 น.))




เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนชื่อดังเมืองประจวบฯ นำลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 เข้าแจ้งความกับตำรวจ อ้างถูกครูลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ ด้วยการใช้ไม้เรียวฟาดก้นจนเป็นรอยฟกช้ำทั้งสองข้าง

ผู้ปกครองของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ พา ด.ช.เอ ลูกชาย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ว่า ลูกชายถูกครูสอนวิชาสังคมตีด้วยไม้เรียวที่ก้นทั้งสองข้างจนเป็นรอยฟกช้ำเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลงโทษนักเรียนที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งตัว ด.ช.เอ ไปตรวจร่างกายกับแพทย์ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนในการดำเนินคดี ก่อนจะเชิญครูคนดังกล่าวสอบมาปากคำต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ปกครองของ ด.ช.เอ ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ลูกชายเล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่ถูกครูลงโทษ เนื่องจากสอบตกวิชาสังคม และอยู่ระหว่างการสอบซ่อม โดยครูผู้สอนมอบหมายให้ทำรายงานส่ง แต่ ด.ช.เอ ทำรายงานไม่เสร็จ จึงถูกครูใช้ไม้เรียวตีที่ก้น จำนวน 9 ครั้ง ที่หน้าชั้นเรียนพร้อมเพื่อนอีก 5 คนที่สอบตกในวิชาเดียวกัน วันต่อมา ด.ช.เอ มีอาการไข้ขึ้นสูง ต้องนำถุงน้ำร้อนมาประคบรอยฟกช้ำที่ก้นทั้งสองข้างเพื่อบรรเทาความเจ็บ ทำให้ไม่สามารถไปเรียนหนังสือตามปกติได้ จึงอยากให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูคนดังกล่าวแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุและละเมิดสิทธิเด็ก เพราะการเฆี่ยนตีถือว่าเป็นการลงโทษที่ผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการอย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ : การทำร้ายร่างกายของเด็ก แม้จะเป็นการตี แต่ตอนนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายแล้ว เพราทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งยกเลิกการ ลงโทษเด็กนักเรียนด้วยการเฆี่ยนตีมาถึง 10 ปี แล้ว ด้วยการออกระเบียบของกระทรวง ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.2548  กำหนดให้การลงโทษเด็กทำได้แค่  4 สถาน เท่านั้น คือ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และภายหลังมีการเพิ่มมาตรการลงโทษเด็กที่ไม่สามารถปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมได้ โดยให้พักการเรียนกับเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และรุนแรง

หากตัวเราได้เป็นครู เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร :  หากนักเรียนสอบตก เมื่อสั่งงานให้ไปทำ แต่เด็กไม่ได้ทำ เราก็ควรหาทางแก้อย่างอื่น เช่น ให้บำเพ็ญประโยชน์แก่โรงเรียน เก็บขยะ กวาด เช็ด ถู ห้องเรียน หรือไม่ก็ให้ทำความสะอาดห้องน้ำ และดิฉันจะปฏิบัติคำสอนหรือหลักธรรมในพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับความเป็นครูคือการการทำตัวเป็นที่รักต่อศิษย์และบุคคลทั่วไป การที่ครูจะเป็นที่รักแก่ศิษย์ได้ ก็ควรตั้งตนอยู่ในพรหมวิหาร 4 คือ มีเมตตา ปรารถนาดีต่อศิษย์ หาทางให้ศิษย์เป็นสุขและเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านวิชาการและการดำเนินชีวิต คอยระวังมิให้ศิษย์ตกอยู่ในความประมาท มีกรุณา สงสาร เอ็นดูศิษย์ อยากช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ ความไม่รู้ มีมุทิตา คือ ชื่นชมยินดีเมื่อศิษย์ได้ดี และยกย่องเชิดชูให้ปรากฏเป็นการให้กำลังใจและช่วยให้เกิดความภูมิใจในตนเอง และมีอุเบกขา คือ วางตัวเป็นกลาง จิตใจที่ตั้งอยู่ในความยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ ด้วยเพียงเท่านี้ก็จะไม่เกิดปัญหาทั้งครูและนักเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น